คอนแทคเลนส์หลังการผ่าตัดแก้ไขสายตาเช่น เลสิก PRK[AT083]
การแก้ไขสายตาด้วยวิธีการผ่าตัดเช่น เลสิก PRK CK ฯลฯ ส่วนใหญ่จะได้ผลการรักษาที่ดี อย่างไรก็ตาม ในบางครั้งพบว่าหลังการผ่าตัดแก้ไขสายตา คนไข้กลับมีอาการตามัว(ซึ่งพบเป็นส่วนน้อย) โดยอาการตามัว อาจเกิดจากสาเหตุเช่น ยังมีค่าสายตาหลงเหลืออยู่ ซึ่งแพทย์อาจพิจารณาผ่าตัดแก้ไขเพิ่มเติมหรือไม่แล้วแต่ความเหมาะสม การรักษาแผลที่ผิดปกติของคนไข้ ตัวอย่างเช่นเมื่อถูกมีดบาด บางคนเมื่อแผลหายแล้วผิวเรียบสนิท แต่บางคนกลับเกิดแผลเป็นนูนที่เรียกกันว่าคีลอยด์ Keloid ขึ้นมา การรักษาแผลของกระจกตาก็เช่นเดียวกัน โดยผู้ที่มีการรักษาแผลที่ไม่ดี หลังแผลหายอาจทำให้กระจกตาไม่เรียบ ส่งผลให้การมองเห็นไม่คมชัดเต็มที่แม้ไม่มีค่าสายตาหลงเหลือแล้วก็ตาม ซึ่งในกรณีหลังแพทย์อาจพิจารณาไม่ทำการผ่าตัดแก้ไขเพิ่มเติม เนื่องจากการผ่าซ้ำที่เดิมอาจทำให้รอยแผลเป็นกลับแย่ลงก็ได้จากการรักษาแผลที่ผิดปกติของคนไข้ เกิดกระจกตาปูดหลังจากการผ่าตัด(Corneal Ectasia) เนื่องจากกระจกตาที่เหลืออยู่ไม่แข็งแรงพอที่จะต้านทานความดันลูกตาได้ ซึ่งกระจกตาปูดดังกล่าวอาจเกิดทันทีหลังจากการผ่าตัด หรือเกิดหลังจากการผ่าตัดไปแล้วหลายปีก็ได้ กระจกตาขึ้นฝ้า (Corneal Haze) ซึ่งเป็นปฏิกิริยาของร่างกาย ทำให้กระจกตามีความขุ่นอยู่ในเนื้อกระจกตา แต่โดยมากเมื่อเวลาผ่านไป Haze จะค่อยๆลดลงได้เอง คนไข้ส่วนใหญ่ที่ตามัวหลังจากการทำเลสิกมักจะไม่มีปัญหากับการดำรงชีวิตเนื่องจากส่วนใหญ่ตาจะมัวลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น อย่างไรก็ดี ถ้าคนไข้มีปัญหากับการดำเนินชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคนไข้ต้องใช้สายตาดูสิ่งเล็กๆละเอียดๆให้คมชัด สามารถใช้คอนแทคเลนส์เฉพาะบุคคลแก้ไขทั้งค่าสายตาที่หลงเหลือและความไม่เรียบของกระจกตา ทำให้สามารถใช้สายตาได้อย่างชัดเจนได้ (ยกเว้นถ้าความมัวเกิดจากกระจกตาขึ้นฝ้า (Corneal Haze) จะไม่สามารถแก้ไขด้วยคอนแทคเลนส์ได้) โดยการแก้ไขด้วยคอนแทคเลนส์เฉพาะบุคคลขึ้นกับความเหมาะสมของแต่ละกรณี ดังนี้ คอนแทคเลนส์ส่วนใหญ่ต้องเป็นชนิดสั่งตัดเฉพาะ เนื่องจากกระจกตาของผู้ที่ผ่านการผ่าตัดแก้ไขสายตาที่กระจกตา มีความแตกต่างจากคนทั่วไปคือ ถ้าผ่านการแก้ไขสายตาสั้นมาบริเวณกลางกระจกตาจะแบน ดังนั้นจึงควรใช้คอนแทคเลนส์ที่ออกแบบผิวหลังแบบ…