02-734-0911-2, 081-7344-552 thaidoctorvision@gmail.com [gtranslate]

สายตาไม่สั้น ทำไมต้องใส่แว่นตา[AT002]

สายตาไม่สั้น ทำไมต้องใส่แว่นตา ผู้ปกครอง ด.ช. วนัฐ (นามสมมุติ) อายุ 9 ปี พาน้องมาตรวจสายตาที่ร้านหมอแว่นเนื่องจากเพื่อนแนะนำมา น้องเรียนอยู่ชั้น ป .1 ไม่เคยใส่แว่นตา สัปดาห์ก่อนมีบริการจากร้านแว่นเข้าไปวัดสายตาน้องที่โรงเรียน แจ้งผลว่าน้องสายตาสั้น -1.50 D (สั้นหนึ่งร้อยห้าสิบ) ทั้งสองข้าง คุณแม่ฟังแล้วตกใจจึงสอบถามเพื่อนที่มีลูกใส่แว่นตา เพื่อนคุณแม่แนะนำให้มาที่ร้านหมอแว่น       จากการตรวจด้วยเครื่องวัดสายตาคอมพิวเตอร์ที่ร้านหมอแว่น สายตาด้านขวาและซ้ายของน้องสั้น -0.50 และ -0.75 ตามลำดับ เมื่อทดสอบด้วย VA chart ปรากฏว่าน้องวนัฐสามารถอ่านตัวอักษรได้ถึงบรรทัด 20/20 ได้ทั้งตาขวาและตาซ้าย แสดงว่าสายตาของน้องปกติ หรือถ้ามีค่าสายตาก็มีน้อยมาก เมื่อตรวจซ้ำด้วยเรติโนสโคป และแว่นเสียบเลนส์ทดลอง ก็ได้ผลเช่นเดียวกัน จึงแจ้งผู้ปกครองว่าน้องวนัฐไม่จำเป็นต้องใส่แว่น เนื่องจากมีค่าสายตาน้อยมากและไม่มีปัญหาการมองเห็นอื่นๆ  ผู้ปกครองก็แปลกใจว่าทำไมค่าเครื่องคอมพิวเตอร์อ่านออกมาสั้น แต่เมื่อวัดสายตาอย่างถูกต้องแล้วไม่พบสายตาสั้น ทางร้านจึงอธิบายจนผู้ปกครองเข้าใจ อนึ่ง การวัดสายตาด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์จะได้ค่าออกมาสั้นเกินความเป็นจริงถ้าขณะวัดดวงตามีการเพ่ง โดยเฉพาะในเด็กจะพบว่าสายตาที่วัดได้ส่วนใหญ่ออกมาสั้นเกินจริงแทบทุกคน เนื่องจากเด็กมีกำลังการเพ่ง(Amplitude of Accommodation) สูง และเด็กมักเพ่งมองขณะวัด(ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากเด็กรู้สึกว่าเครื่องอยู่ใกล้…

Read More »

ทดสอบตาเขซ่อนเร้นระยะใกล้เบื้องต้นด้วยตนเอง[AT052]

ทดสอบตาเขซ่อนเร้นระยะใกล้ด้วยตนเอง ข้อแนะนำ ก่อนการทดสอบตาเขซ่อนเร้น ท่านควรทดสอบตาเขก่อนทุกครั้ง ถ้าท่านเป็นตาเขแล้วไม่ต้องทดสอบตาเขซ่อนเร้นอีกเนื่องจากทั้งสองอย่างจะไม่เกิดพร้อมกัน ถ้าท่านไม่เป็นตาเขจึงทำการทดสอบตาเขซ่อนเร้นต่อได้ ทดสอบตาเขซ่อนเร้นระยะใกล้ 1.หาเป้ามอง อาจเลือกจุดเล็กๆที่ระดับสายตาห่างจากตัวประมาณ 40 เซนติเมตร ขนาดของจุดประมาณเท่าเมล็ดถั่วเขียวโดยประมาณ ลักษณะจุดที่มองควรตัดกับสิ่งแวดล้อมอย่างชัดเจน ใช้จุดดังกล่าวเป็นเป้ามองในการทดสอบ 2.ลืมตาทั้งสองข้างและมองไปที่เป้า (ถ้ามีแว่นสายตามองใกล้ให้ใส่แว่นตาด้วย) ผู้ทดสอบต้องมองเห็นเป้าได้ชัดเจนจึงทำการทดสอบต่อได้ ถ้ามองเห็นเป้าที่ใช้มองแยกออกเป็นสองภาพ(ซึ่งจริงๆแล้วมีเป้าอันเดียว) แสดงว่าคุณน่าจะตาเข ถ้ามองเห็นเป้าเป็นภาพเดียว ให้ทำการทดสอบข้อต่อไป 3.ใช้มือขวาบังตาขวาโดยไม่ให้มือแตะถูกหนังตา เลื่อนมือไปมาเพื่อปิดตาซ้ายสลับกับการปิดตาขวาโดยใช้เวลาสำหรับการปิดตาแต่ละข้างประมาณ 3-5 วินาที  ระหว่างที่เลื่อนมือเพื่อปิดตาให้สังเกตว่าเป้าที่มองอยู่ยังคงอยู่นิ่งๆหรือมีการขยับระหว่างการปิดตาสลับข้าง      ถ้าสังเกตเห็นเป้าอยู่นิ่งๆ ไม่มีการเคลื่อนที่ แสดงว่าท่านไม่มีตาเขซ่อนเร้น      ถ้าสังเกตเห็นเป้ามีการเคลื่อนที่ทุกครั้งเมื่อสลับมือปิดตา แสดงว่าท่านมีตาเขซ่อนเร้น โดยเป้าที่เคลื่อนที่ระหว่างการปิดตา อาจเคลื่อนในทิศทางซ้าย-ขวา บน-ล่าง หรือเฉียงๆก็ได้ ซึ่งการเคลื่อนที่ในทิศทางที่ต่างกัน แสดงให้เห็นถึงชนิดของตาเขซ่อนเร้นที่แตกต่างกันด้วย หมายเหตุ การตรวจนี้เป็นวิธีการตรวจด้วยตนเองอย่างง่ายๆ ไม่ใช่คำวินิจฉัยว่าท่านมีตาเขซ่อนเร้นจริงๆ ถ้าท่านต้องการตรวจให้แน่ชัดว่ามีอาการตาเขซ่อนเร้นจริงหรือไม่ ควรไปพบจักษุแพทย์หรือนักทัศนมาตรเพื่อทำการตรวจอย่างละเอียด(ที่ร้านหมอแว่นมีบริการตรวจตาเหล่และตาเหล่ซ่อนเร้นให้แก่ลูกค้าทุกท่านฟรี) ภาวะตาเขซ่อนเร้นในเด็ก อาจทำให้เด็กมีปัญหาตาเขตามมาได้ ถ้าบุตรหลานหรือนักเรียนของท่านมีอาการตาเขซ่อนเร้น ควรไปพบจักษุแพทย์หรือนักทัศนมาตรเพื่อรับคำปรึกษาและแก้ไข อนึ่งตาเขซ่อนเร้นอาจทำให้มีอาการตามัวหรือเห็นภาพซ้อนเป็นพักๆ ปวดตาหรือปวดหัวเวลาใช้สายตามากๆได้ โดยอาการดังกล่าวสามารถแก้ไขให้ดีขึ้นได้โดยการใช้แว่นสายตาหรือเลนส์ปริซึมหรือทั้งสองอย่าง ภาวะตาเขซ่อนเร้นในผู้ใหญ่ อาจทำให้มีอาการดวงตาอ่อนล้าง่ายโดยเฉพาะเมื่อต้องใช้สายตาติดต่อกันเป็นเวลานาน…

Read More »

บุคลากรที่เกี่ยวข้องทางด้านสายตา[AT013]

บุคลากรที่เกี่ยวข้องทางด้านสายตา ในปัจจุบัน มีบุคลากรหลากหลายที่ทำหน้าที่ให้บริการเกี่ยวกับสุขภาพตา (Eye Care Practitioner) ซึ่งบุคลากรในทุกระดับล้วนมีความสำคัญที่จะเสริมสร้างสุขภาพตาและสายตาแก่ประชาชน อย่างไรก็ดี บุคลากรแต่ละกลุ่มจะมีหน้าที่ความรับผิดชอบซึ่งแตกต่างกันหรือเหมือนกันในบางส่วน ผู้เขียนจึงมีความประสงค์ที่จะทำให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องของประชาชน เพื่อทำให้เกิดความสะดวกและทราบว่า ควรไปพบใครเมื่อตนมีปัญหาที่เกี่ยวกับดวงตา 1.จักษุแพทย์ (หมอตา ) วุฒิการศึกษา : จบการศึกษาแพทย์ศาสตร์บัณฑิต(Doctor of Medicine, MD) และต่อเฉพาะทางสาขาวิชาจักษุวิทยา(ขณะที่เรียนอยู่ เรียกว่าแพทย์ประจำบ้านหรือResident)เป็นระยะเวลา 3 ปี สำหรับจักษุแพทย์เชี่ยวชาญพิเศษ(Fellowship )ต้องต่ออีก 1-2 ปี(เช่น จักษุแพทย์เชี่ยวชาญสาขาโรคต้อหิน สาขากระจกตา สาขาตาเด็กและกล้ามเนื้อตา ฯลฯ) หน้าที่หลัก     : รักษาโรคตา ทั้งด้วยการใช้ยาและการผ่าตัด ข้อควรรู้         : ปัจจุบัน จักษุแพทย์ถือเป็นแพทย์สาขาขาดแคลนแขนงหนึ่ง โดยในบางจังหวัดที่ห่างไกลหรือประชากรน้อยอาจไม่มีจักษุแพทย์ประจำ จากการที่มีจำนวนคนไข้มากกว่าที่สามารถตรวจได้ในแต่ละวัน ทำให้เวลาที่จักษุแพทย์ให้ต่อคนไข้ 1 คน ค่อนข้างจำกัด 2.นักทัศนมาตร ( OD, โอดี , หมอสายตา) วุฒิการศึกษา : จบการศึกษาทัศนมาตรศาสตร์บัณฑิต(Doctor…

Read More »

วัดสายตาด้วยเครื่องวัดสายตาคอมพิวเตอร์ ค่าเชื่อถือได้หรือไม่[AT019]

วัดสายตาด้วยเครื่องวัดสายตาคอมพิวเตอร์ ค่าเชื่อถือได้หรือไม่ วัดสายตาด้วยเครื่องวัดสายตาคอมพิวเตอร์ ค่าเชื่อถือได้หรือไม่…….??? ค่าสายตาที่ได้จากเครื่องวัดสายตาคอมพิวเตอร์ ไม่ควรนำมาใช้ได้โดยทันที เนื่องจากยังไม่มีความแม่นยำเพียงพอ โดยค่าที่ได้จากเครื่องวัดสายตาคอมพิวเตอร์ จะต้องถูกนำมาผ่านกระบวนการอีกหลายขั้นตอนกว่าจะได้ค่าสายตาที่ถูกต้องและเหมาะสมกับผู้ถูกวัด เพื่อทำให้ผู้ถูกวัดใส่แว่นตาหรือคอนแทคเลนส์แล้ว สามารถมองได้อย่างชัดเจนและสบายตา ทำไมจึงไม่ควรนำค่าสายตาที่ได้จากเครื่องคอมพิวเตอร์มาตัดแว่นตาทันที…….??? เนื่องจาก ค่าที่ได้จากเครื่องคอมพิวเตอร์มักจะเป็นค่าสายตาที่สั้นเกินความเป็นจริง (หรือยาวน้อยกว่าความเป็นจริง) ซึ่งถ้านำค่าดังกล่าวมาตัดแว่นตาหรือจ่ายคอนแทคเลนส์ทันที ค่าดังกล่าวอาจทำให้มองเห็นได้ชัดเจนแต่มักทำให้ใส่แล้วไม่สบายตาในระยะยาว เนื่องจากกำลังเลนส์ลบที่มากเกินไป(หรือกำลังเลนส์บวกที่น้อยเกินไป)ในแว่นตา จะทำให้ผู้ใส่ต้องใช้ความพยายามในการเพ่ง(Accommodation) มากขึ้นตลอดเวลา ทำให้เกิดความไม่สบายตาได้เมื่อใช้ได้สักระยะหนึ่ง   ถ้าค่าที่ได้จากการวัดสายตาด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ไม่สามารถนำมาใช้ได้ทันที แล้วทำไมต้องวัดด้วยล่ะ…….??? ค่าสายตาที่ได้จากเครื่องคอมพิวเตอร์ แม้จะไม่ถูกต้องเต็มที่แต่ก็เป็นค่าที่ทำให้ทราบคร่าวๆว่าค่าสายตาของผู้ถูกวัดมีมากน้อยขนาดไหน เช่น สายตาสั้นหรือยาว ค่าสายตามากหรือน้อย มีค่าสายตาเอียงหรือไม่ โดยเครื่องคอมพิวเตอร์จัดเป็นอุปกรณ์การวัดสายตาแบบ Objective ชนิดหนึ่ง ซึ่งผู้ถูกวัดไม่ต้องพูดหรือตอบคำถามอะไร เครื่องก็สามารถอ่านค่าสายตาออกมาได้   หลังจากได้ค่าสายตาคร่าวๆจากเครื่องคอมพิวเตอร์แล้ว จะต้องมีขั้นตอนการวัดอะไรอีกบ้าง……..??? คำถามนี้ต้องตอบค่อนข้างยาว ขอไปตอบที่ รวมคำถาม ขั้นตอนการวัดสายตา http://www.doctorvision.net/main.php?mpage=faq_show&;news_no=28   เครื่องคอมพิวเตอร์นอกจากจะวัดค่าสายตาได้แล้ว ยังวัดค่าอะไรได้อีกบ้าง…….??? เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่นอกจากจะวัดค่าสายตาได้แล้ว ส่วนใหญ่ยังสามารถวัดค่าต่อไปนี้ได้ด้วย PD (Pupillary Distance) หน่วยเป็นมิลลิเมตร คือค่าระยะห่างระหว่างกึ่งกลางรูม่านตาของตาทั้งสองข้าง เป็นค่าสำคัญค่าหนึ่งที่ใช้ในการประกอบเลนส์เข้ากับกรอบแว่นตา(แต่ค่า Pdที่จะใช้เพื่อประกอบแว่น…

Read More »

อันตรายจากรังสียูวี[AT038]

อันตรายจากรังสียูวี จำเป็นไหมที่ต้องใส่แว่นตากันแดดเมื่ออยู่กลางแจ้ง……??? แนะนำให้ใส่ครับ เพื่อปกป้องดวงตาจากรังสียูวีที่เป็นอันตรายต่อดวงตา รังสียูวีอันตรายต่อดวงตาอย่างไร รังสียูวีเป็นอันตรายทั้งต่อผิวหนังและดวงตาของเรา การตากแดดมาก(คือได้รับรังสียูวีมาก) นอกจากจะทำให้ผิวหนังคล้ำ ไหม้ หรือเป็นมะเร็งผิวหนังได้แล้ว ก็ยังทำอันตรายต่อดวงตาของเราได้อีกด้วย ความเสียหายของดวงตาเนื่องจากรังสียูวีอาจแบ่งออกเป็น 1 ผลจากรังสียูวีระยะสั้น ถ้าได้รับรังสียูวีที่มีความเข้มสูงหรือได้รับเป็นเวลานาน ในระยะสั้น(คือรู้สึกได้เลยในวันนั้นที่ได้รับรังสียูวี) อาจทำให้เกิด กระจกตาอักเสบเนื่องจากรังสียูวี (Photokeratitis) เกิดได้จากการที่ได้รับรังสียูวีที่มีความเข้มสูง เช่นการจ้องแสงจากการเชื่อมโลหะ การเล่นสกีหรือปีนเขาในวันที่แดดจัดโดยไม่ได้ป้องกัน เนื่องจากรังสียูวีที่สะท้อนจากหิมะและการรับรังสีโดยตรงจากดวงอาทิตย์ ทำให้เกิดอาการแสบตา น้ำตาไหล แพ้แสง และตาแดงได้ (คล้ายกับการตากแดดทั้งวันทำให้ผิวไหม้ แต่นี่เป็นผิวกระจกตาไหม้ที่สร้างความเจ็บปวดยิ่งกว่า) 2 ผลจากรังสียูวีระยะยาว การได้รับรังสียูวีในระยะยาวส่งผลต่อดวงตาและผิวรอบดวงตาหลายอย่างเช่น ต้อลม (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมใน  “รวมคำถามต้อลม”  (อยู่ระหว่างการปรับปรุง) ต้อเนื้อ (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมใน “รวมคำถามต้อเนื้อ”  (อยู่ระหว่างการปรับปรุง) ต้อกระจก (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมใน “รวมคำถามต้อกระจก”  (อยู่ะหว่างการปรับปรุง) จอตาเสื่อม (Age-Related Macular Degeneration)  (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมใน “รวมคำถามจอตาเสื่อม” http://doctorvision.net/2012-01-23-15-41-20/2012-01-23-15-44-19/424-faq- เมื่อรู้อย่างนี้แล้วไม่ควรนิ่งนอนใจ ป้องกันดวงตาของท่านจากรังสียูวีวันนี้ เพื่อสุขภาพตาที่ดีตลอดไปครับ ผิวหนังไหม้เนื่องจากรังสียูวี มะเร็งผิวหนังชนิด Basal…

Read More »

อาหารบำรุงสายตา[AT039]

อาหารบำรุงสายตา สารอาหารบำรุงสายตามีอะไรบ้าง และแต่ละชนิดมีคุณสมบัติอย่างไรต่อดวงตา สารแต่ละอย่างมีในอาหารประเภทใดบ้าง….??? เท่าที่รวบรวมได้มีดังนี้ครับ วิตามินเอ วิตามินเอเป็นสารสำคัญอย่างหนึ่งสำหรับดวงตาเนื่องจากมันเป็นสารตั้งต้นของ เรตินาล (Retinal) สารสำคัญในเซลล์รับแสง(Photoreceptor) ของดวงตา วิตามินเอมีมากในอาหารเช่น ตับ ใบยอ มันฝรั่ง แครอท มะม่วง ผักโขม นม ไข่แดง ฯลฯ อย่างไรก็ดี แม้ว่าท่านกินอาหารที่มีวิตามินเอมากท่านก็อาจขาดวิตามินเอได้ถ้าท่านไม่ได้บริโภคไขมันเนื่องจากวิตามินเอละลายในไขมันนั่นเอง หรือบางคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับการดูดซึมไขมันก็อาจมีปัญหาขาดวิตามินเอได้เช่นกัน การขาดสังกะสีก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ขาดวิตามินเอเนื่องจากสังกะสีเป็นธาตุสำคัญในการดูดซึมและขนส่งวิตามินเอ การขาดวิตามินเอจะทำให้เซลล์รับแสงทำงานไม่ได้ทำให้เกิดภาวะตาบอดกลางคืนตามมา การขาดวิตามินเอในวัยเด็กอย่างรุนแรงสามารถทำให้ตาบอดได้อย่างถาวร คาดว่าในแต่ละปีมีเด็กกว่าสองแสนคนในประเทศกำลังพัฒนาที่ตาบอดเนื่องจากการขาดวิตามินเอ นอกจากนั้นการขาดวิตามินเอยังอาจทำให้เป็น Xerophthalmia ซึ่งมีอาการคือตาแห้งที่เยื่อบุตาขาว ถ้ารุนแรงกว่านั้นอาจทำให้เยื่อบุตาขาวเปลี่ยนสภาพเป็นเยื่อที่ผลิตเคราตินซึ่งจะทำให้ตาแห้งมากขึ้น และตาที่แห้งมากอาจทำให้กระจกตามีปัญหาและตาบอดได้ในที่สุด การกินวิตามินเอมากเกินไปในหญิงมีครรภ์อาจทำให้ทารกมีการผิดปกติได้ เบต้าแคโรทีน เป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ กล่าวคือตัวมันถูกร่างกายเปลี่ยนเป็นวิตามินเอได้หลังจากถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย มีมากในผักผลไม้ที่มีสีส้มหรือสีเหลืองเช่น แครอท มะม่วง มะละกอ ฟักทอง ส้ม ผักโขม เบต้าแคโรทีนยังมีมากในน้ำมันปาล์มดิบแต่จะถูกสกัดออกจากน้ำมันปาล์มเพื่อให้ได้น้ำมันที่ใสและสีอ่อน การรับประทานอาหารประเภทที่มีเบต้าแคโรทีนสูง จะมีคุณสมบัติทางบำรุงสายตาเช่นเดียวกันกับวิตามินเอ นอกจากนั้นอาการขาดเบต้าแคโรทีนก็เหมือนกับการขาดวิตามินเอด้วย ลูทีน เป็นสารธรรมชาติจัดอยุ่ในกลุ่มของสารรงควัตถุที่มีสีในตระกูลของสารแคโรทีนอยด์ แต่มีความแตกต่างจากคาโรทีนอยด์ชนิดอื่นตรงที่จะไม่เปลี่ยนไปเป็นวิตามินเอ พบมากในผักสีเขียว ไข่ไก่ ไขมันสัตว์ สำหรับคนปกติถ้ามีการบริโภคผักและผลไม้เป็นประจำมักจะไม่ขาดสารอาหารชนิดนี้…

Read More »

ตัวเลขบนกรอบแว่นและการเลือกแว่น[AT030]

ตัวเลขบนกรอบแว่นและการเลือกแว่น สังเกตเห็นตัวเลขบนกรอบแว่นหลายค่า ไม่ทราบว่าแต่ละค่าหมายถึงอะไรบ้าง….??? ตัวเลขบนกรอบแว่นที่เกี่ยวข้องกับค่าของกรอบแว่นตา(ไม่เกี่ยวกับรุ่นหรือสี หรือรหัสบริษัท) มีสามค่า โดยทุกค่าคือตัวเลขบอกความยาว มีหน่วยเป็นมิลลิเมตร ดังนี้ 1.ค่าความกว้างเลนส์ มีค่าโดยประมาณอยู่ที่ 40-60 มิลลิเมตร ตัวเลขนี้มักเป็นตัวเลขที่อยู่หน้าสัญลักษณ์สี่เหลียม หรือเป็นตัวเลขตัวแรก ถ้าแว่นนั้นบอกค่าเป็นสามค่าดังตัวอย่าง(52-18-145) โดยแว่นตาเด็กจะมีความกว้างน้อยกว่าผู้ใหญ่ 2.ระยะระหว่างเลนส์ มีค่าประมาณ15-20 มิลลิเมตร ตัวเลขนี้มักเป็นตัวเลขที่อยู่หลังสัญลักษณ์สี่เหลียม หรือเป็นตัวเลขตัวที่สอง ถ้าแว่นนั้นบอกค่าเป็นสามค่าดังตัวอย่าง(52-18-145) 3.ความยาวขาแว่น มีค่าประมาณ 130-150 มิลลิเมตร ตัวเลขนี้มักเป็นตัวเลขที่อยู่บนขาแว่น หรือเป็นตัวเลขตัวสุดท้ายถ้าแว่นนั้นบอกค่าเป็นสามค่าดังตัวอย่าง(52-18-145) อนึ่ง ความยาวขาแว่นมักจะหมายถึงความยาวของขาแว่นเริ่มต้นตั้งแต่บานพับจนถึงปลายขาแว่นเมื่อดัดขาแว่นให้ตรง ค่าต่างๆเหล่านี้มีประโยชน์อย่างไร……??? มีประโยชน์ในการเลือกแว่นหลายอย่างเช่น โดยปกติค่า PD(ระยะระหว่างกึ่งกลางรูม่านตา) ของเราควรจะเท่ากับหรือน้อยกว่าค่า 1+2 (ความกว้างเลนส์ + ระยะระหว่างเลนส์) จะทำให้ใส่แว่นแล้วดูสวยงาม แว่นไม่ดูเล็กหรือใหญ่เกินไป ช่วยบอกว่าแว่นอันนั้นเป็นแว่นสำหรับเด็กหรือผู้ใหญ่ (ในกรณีที่ไม่เห็นแว่นตัวจริงเช่นดูแว่นตาจากเว็บไซต์) ค่าสามค่านี้ รวมทั้งค่า PD ทำให้สามารถเลือกแว่นตาได้เลยหรือไม่ ไม่ครับ ค่าสามค่านี้เป็นเพียงค่าเบื้องต้นที่ช่วยในการเลือกกรอบแว่นเท่านั้น โดยการเลือกแว่นตาให้ใส่ได้สบายและดูดียังมีปัจจัยอื่นๆอีกมากมาย ยกตัวอย่างเช่น ค่าสามค่านี้ไม่ได้บอกถึงค่าความกว้างของหน้าแว่นทั้งหมด เนื่องจากไม่ได้บอกถึงระยะระหว่างขอบเลนส์ด้านนอกจนถึงขาแว่นตา ซึ่งค่าดังกล่าวจะมีความสำคัญมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ที่มีค่า…

Read More »

ทดสอบจอตาส่วนกลาง โดย Amsler Grid เบื้องต้นด้วยตนเอง[AT053]

ทดสอบจอตาส่วนกลาง โดย Amsler Gridด้วยตนเอง 1.ดาวโหลดแผ่นทดสอบ แอมสเล่อร์ กริด (คลิกที่ “ไฟล์ประกอบ” : “Dowload“) และเปิดให้มีขนาดเท่าขนาดจริง (View : Zoom : 100% / actual size) บนจอคอมพิวเตอร์ หรือปริ้นลงกระดาษ A4 2.ตรวจสอบขนาดของแผ่นทดสอบ โดยวัดความยาวของเส้นใต้ แอมสเล่อ กริด ถ้าได้ 10 เซนติเมตรแสดงว่าแผ่นทดสอบมีขนาดที่ถูกต้อง 3.อยู่ห่างจากแผ่นทดสอบ 30 เซนติเมตร(ถ้าใช้แผ่นทดสอบนี้ต้องใช้ระยะนี้เท่านั้น) ปิดตาซ้าย ใช้ตาขวาข้างเดียวมองที่แผ่นทดสอบที่จุดกึ่งกลางแผ่นทดสอบ(จุดขาวที่กลางแผ่น) ในขณะทำการทดสอบให้มองที่จุดขาวกลางแผ่นทดสอบตลอดเวลา ถ้ามองไม่เห็นจุดขาว ให้มองจุดที่เส้นทะแยงมุมตัดกัน(โดยการประมาณ) ถ้าผู้ทดสอบมีแว่นมองใกล้ให้ใส่แว่นด้วยเพื่อให้มองแผ่นทดสอบได้ชัดเจน             Amsler Grid มีหลายแบบ อาจเป็นตารางขาวบนพื้นดำ หรือตารางดำบนพื้นขาวก็ได้ สำหรับคนแพ้แสงควรใช้ชนิดพื้นดำ 4.ตอบคำถามดังนี้     คุณมองเห็นจุดกึ่งกลางสีขาวหรือไม่(เห็น /…

Read More »

ยาบางชนิดทำให้ค่าสายตาเปลี่ยนได้[AT050]

ยาบางชนิดทำให้ค่าสายตาเปลี่ยนได้ คุณสัญชัย(นามสมมุติ) อายุ 55 ปี เป็นลูกค้าที่ร้านมาหลาย ปีแล้ว มาตรวจตาด้วยอาการตามัว มองเห็นไม่ชัดเจนจึงมาที่ร้านเพื่อตัดแว่นใหม่จากแว่นเดิมที่ใช้สำหรับมองไกล มีค่าสายตาทั้งข้างขวาและข้างซ้ายเท่ากัน คือ +1.50 D. มีประวัติเป็นต้อหินและทำการรักษากับจักษุแพทย์อยู่ วัดความดันตา ได้ 25 mm.Hg./26 mm.Hg.  วัดสายตามองไกลใหม่ ได้ +2.50 D.ทั้งสองตา เมื่อซักประวัติเพิ่มเติมโดยสอบถามเกี่ยวกับการใช้ยาหยอดตาเพื่อรักษาต้อหิน ปรากฏว่าระยะนี้ ยาที่หยอดเป็นประจำหมด และคุณสัญชัยไม่มีเวลาไปพบจักษุแพทย์ จึงไม่ได้หยอดยาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว จากข้อมูลที่ได้ ทางร้านตั้งข้อสังเกตว่า สายตาที่เปลี่ยนอาจเนื่องจากการหยุดยาต้อหิน เนื่องจากยาต้อหินบางประเภท มีผลข้างเคียงทำให้สายตาสั้นลงเล็กน้อยได้และเมื่อหยุดใช้ อาจทำให้สายตายาวขึ้นเล็กน้อย จึงแนะนำให้คุณสัญชัยว่ายังไม่ควรตัดแว่นใหม่ โดยกำชับให้ไปพบจักษุแพทย์เพื่อนำยาต้อหินมาหยอดต่อ หลังจากนั้น 3 สัปดาห์ ทางร้านได้โทรหาคุณสัญชัยเพื่อสอบถามเกี่ยวกับการใช้แว่นตา ปรากฏว่า คุณสัญชัยสามารถใส่แว่นตาอันเดิมและมองไกลได้ชัดเจนดี แสดงว่าค่าสายตายาวที่เพิ่มขึ้นเป็นผลจากการหยุดยารักษาต้อหินนั่นเอง โดยนอกจากยารักษาต้อหินแล้ว ยังมียาอีกหลายประเภทและโรคบางโรคที่ทำให้ค่าสายตาเปลี่ยนแปลงได้ ดังนั้นการไปตรวจวัดสายตา ควรบอกกับร้านที่ทำการวัดด้วยว่า ได้รับประทานยาอะไรอยู่บ้างหรือไม่ หรือมีโรคประจำตัวบ้างไหม เพื่อทำให้ได้รับคำแนะนำที่ถูกต้อง     รูป ยาหลายอย่าง มีผลต่อค่าสายตาหรือสุขภาพตา…

Read More »

การป้องกันดวงตาจากรังสี UV[AT037]

การป้องกันดวงตาจากรังสี UV เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ในปัจจุบัน ทราบถึงอันตรายของแสงแดดต่อผิวหนัง เนื่องจากครีมทาผิวมากมายหลายยี่ห้อโฆษณาบอกถึงอันตรายของแสงแดดต่อผิวหนังที่เป็นสาเหตุของ ความหมองคล้ำ ผิวแห้ง ลอก ความเหี่ยวย่น สิว ฝ้า หรือกระทั่งมะเร็งผิวหนังได้ โดยรังสี UV ในแสงแดดนั่นเองที่เป็นตัวการสำคัญ เนื่องจากรังสี UV เป็นรังสีที่มีความยาวคลื่นสั้นและมีพลังงานสูง สามารถทำอันตรายต่อทุกส่วนของร่างกายได้ ดังนั้นครีมกันแดดที่ดีต้องมีคุณสมบัติป้องกันรังสี UV ได้มาก นอกจากรังสี UV จะมีอันตรายต่อผิวหนังแล้ว ก็ยังมีอันตรายต่อดวงตาด้วย รังสี UV สามารถทำอันตรายต่อดวงตาตั้งแต่ แสบตา น้ำตาไหล ตาแดง ต้อลม ต้อเนื้อ ต้อกระจก จอตาเสื่อม ฯลฯ อย่างไรก็ดี ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่ตระหนักถึงอันตรายของรังสี UV ต่อดวงตามากนัก เชื่อได้ว่า ยังมีผู้หญิงจำนวนมากที่มีครีมกันแดดแต่ไม่มีแว่นตากันแดด อนึ่ง การป้องกันรังสี UV เข้าสู่ดวงตาทำได้หลายวิธี ซึ่งแต่ละวิธีก็มีข้อเด่นข้อด้อยแตกต่างกันดังนี้ 1.แว่นตากันรังสี UV เมื่อกล่าวถึงแว่นตากันรังสี UV ส่วนใหญ่ทุกท่านคงนึกถึงแว่นตากันแดดที่มีเลนส์สีดำหรือสีต่างๆ จริงๆแล้วเลนส์แว่นตาที่เราเห็นเป็นสีดำนั้นมีคุณสมบัติป้องกันแสงขาว แต่อาจไม่ได้มีคุณสมบัติป้องกันรังสี UV…

Read More »