ช่วงสอบเข้าเรียน โรงเรียนเตรียมทหาร มักจะมีคำถามอยู่เสมอๆ สำหรับคนที่มีปัญหาสายตา ว่าจะแก้ไขด้วยวิธีอะไรถึงจะดี หมอเบิร์ดขอรวบรวมรายละเอียดไว้ดังนี้ เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับคนที่มีปัญหาสายตา และจะสอบเข้าเรียนโรงเรียนเตรียมทหารครับ
ก่อนอื่น เราควรจะได้ทดสอบสายตาโดยการอ่านตัวเลขเสียก่อน ว่าเราสามารถอ่านได้ผ่านเกณฑ์ที่กำหนดหรือไม่ น้องๆสามารถเข้าไปดาวโหลดแผ่นทดสอบสายตามาตรฐาน และทำตามคำแนะนำ ตามลิ้งข้างล่างได้เลยครับ
โดยการอ่านตัวเลข หมอเบิร์ด มีเทคนิคแนะนำ ตามวีดีโอข้างล่างนะครับ
ถ้าน้องๆไม่สามารถอ่านตัวเลข 6/6 หรือ 20/20 ได้ นั่นแปลว่า น้องๆ อาจมีปัญหาสายตา ซึ่งวันไปทดสอบสายตาจริง อาจจะสอบไม่ผ่านได้
แต่ยังไม่ต้องตกใจนะครับ ถ้าอ่านไม่ได้จริงๆ ก็แนะนำให้ไปตรวจสายตาอย่างละเอียด กับร้านแว่นที่เชื่อถือได้ก่อน เพื่อยืนยันว่า ที่เรามองเห็นไม่ชัด เกิดจากปัญหาสายตาจริงๆ
ถ้าทราบแน่ชัดแล้วว่าเรามีปัญหาสายตา ก็ถึงขั้นตอนการแก้ไข ซึ่งปัจจุบัน การแก้ไขที่นิยม สำหรับการเข้าเรียนแตรียมทหาร มีด้วยกัน 3 วิธีคือ
- เลสิก
- พีอาร์เค
- เลนส์กดตา(โอเคเลนส์)
โดยแต่ละวิธีก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป ตามวีดีโอข้างล่างครับ
สิ่งควรรู้เกี่ยวกับการแก้ไขสายตาเพื่อสอบเข้าเตรียมทหาร
คำถามหลักๆของการแก้ไข คือ “จะแก้ด้วยวิธีไหนดี” ซึ่งคำถามนี้ สำหรับนักเรียนเตรียมทหาร มีรายละเอียดที่ควรรู้ดังนี้ครับ
๑ ค่าสายตาเท่าไร ?????
ค่าสายตาที่แตกต่างกัน เหมาะกับการแก้ไขที่ต่างกัน ดังนี้ครับ
-ค่าสายตาสั้นน้อยๆ (เช่นสั้น ไม่เกินหนึ่งร้อย(-1.00 ไดออปเตอร์) คือคนที่ชีวิตปกติอาจไม่ต้องใส่แว่นตาหรือคอนแทคเลนส์ ส่วนใหญ่ถ้าสายตาสั้นระดับนี้ เรามักไม่ได้ใส่แว่นตา เพราะสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติ ยกเว้นมองไกลๆ ตัวเล็กๆ จะมัวเล็กน้อย ซึ่งสายตาสั้นน้อยๆระดับนี้ ถ้าไม่จำเป็นก็อาจไม่ต้องไปผ่าตัด การทำโอเคเลนส์เพื่อให้สอบผ่าน ก็ทำให้ไม่ต้องไปเสี่ยงกับการผ่าตัดโดยใช่เหตุ (ในโรงเรียนเตรียมทหาร อนุญาตให้ใส่แว่นในห้องเรียนได้)
-ค่าสายตาสั้น ที่ในชีวิตปกติแล้วต้องใส่แว่นตาทั้งวัน ถ้าไม่ใส่แว่น จะรู้สึกว่าตามัวและลำบากในการใช้ชีวิตประจำวัน ถ้าเราอยู่กลุ่มนี้ การผ่าตัดแก้ไขอย่างถาวรเลยจะดีกว่า เพราะว่าหลังผ่าแล้วก็ไม่ต้องมาใส่แว่นหรือคอนแทคเลนส์อีก โดยเฉพาะคนที่สายตาสั้นมากกว่า -3.00 ไดออปเตอร์ขึ้นไป(สั้นสามร้อย)
-แต่ถ้าค่าสายตามากๆ ก็อาจจะเลือกวิธีผ่าตัดใส่เลนส์เสริม (Implantable Contact Lens, ICL) ไปเลย วิธีนี้ไม่ทำให้กระจกตาบางลงเพราะเป็นการผ่าตัดเพื่อฝังเลนส์อีกหนึ่งชิ้นเข้าไปในลูกตา แต่ราคาก็ค่อนข้างสูง ประมาณข้างละแสนกว่าบาท
๒ อยากได้เหล่าไหน ?????
เนื่องจากแต่ละเหล่ามีเกณฑ์การตรวจสายตาที่ต่างกัน และแม้เป็นเหล่าเดียวกัน ในแต่ละปีก็อาจยังมีเกณฑ์ที่ต่างกันด้วยเหมือนกัน โดยเกณฑ์การตรวจสายตาของแต่ละเหล่า ในปีที่ผ่านๆมา มักเป็นดังนี้
-ทอ : มักไม่ชอบเด็กที่ผ่าตัดตา ไม่ว่าจะทำเลสิกหรือ PRK เนื่องจากทำให้กระจกตาบางลง ถ้าสายตามากอาจทำให้เกิดเห็นแสงกระจาย ซึ่งอาจมีผลเสียต่อการเป็นนักบิน ดังนั้น ทอ. จึงไม่ชอบเด็กที่ผ่าตัด และอาจให้อ่านตัวเลขตัวใหญ่กว่า 20/20 หรือ 6/6 ได้เล็กน้อย
-ตร : มักให้อ่านได้ชัดตามเกณฑ์ โดยไม่สนใจว่าจะแก้ไขด้วยวิธีใด ดังนั้นจึงควรอ่านได้ 20/20 หรือ 6/6 อาจผิดได้เล็กน้อย
-ทร : มักให้อ่านได้ชัดตามเกณฑ์ โดยไม่สนใจว่าจะแก้ไขด้วยวิธีใด ดังนั้นจึงควรอ่านได้ 20/20 หรือ 6/6 อาจผิดได้เล็กน้อย
-ทบ : ให้สายตาสั้นได้เล็กน้อยคือ -1.50 ไดออปเตอร์(สั้นร้อยห้าสิบ) โดยวันตรวจสายตาอาจนำแว่นตาของตนเองไปด้วย ถ้าอ่านตาเปล่าไม่ได้ 6/6 ผู้คุมก็จะให้ใส่แว่นอ่านได้ ถ้าใส่แว่นแล้วอ่านได้ 6/6 หรือ 20/20 ก็จะเอาแว่นอันนั้นไปวัดค่าสายตา ถ้าค่าสายตาสั้นไม่เกิน -1.50 ไดออปเตอร์ ก็ถือว่าผ่าน สำหรับ ทบ. ให้ทำเลสิก / PRK ได้ แต่ห้ามใช้โอเคเลนส์
๓ จะแก้สายตาเมื่อไรดี ?????
คำถามนี้ ผมจะให้น้ำหนักไปทางความมั่นใจว่าจะสอบผ่านครับ คือ
- ถ้ามั่นใจว่าสอบผ่านแน่ๆ แนะนำให้รีบทำตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะถ้าค่าสายตาหรือความชัดเจนยังไม่ดีหลังจากแก้ครั้งแรก เราก็ยังมีเวลาที่จะแก้ไข มีเวลาที่รอแผลหายสนิทและการมองเห็นชัดเจน(ถ้าแก้ด้วย เลสิก / พีอาร์เค) และมีเวลาที่จะเปลี่ยนเลนส์กรณีสายตายังลงไม่หมด(ถ้าแก้ด้วยโอเคเลนส์)
- แต่ถ้าไม่มั่นใจว่าจะสอบผ่านไหม หรือมีโอกาสผ่านน้อย ต้องการรอประกาศผลสอบข้อเขียนก่อน ถ้าสอบผ่านรอบแรก แนะนำให้แก้ไขด้วยโอเคเลนส์ เนื่องจากหลังจากประกาศผลสอบรอบแรก ส่วนใหญ่รอบสองจะเรียกภายในไม่เกิน 7 วันเพื่อไปรายงานตัวและตรวจร่างกาย มีทั้งการวิ่งและว่ายน้ำ ดังนั้นการทำเลสิก/พีอาร์เค แผลอาจหายไม่ทัน(ปกติหมอจะห้ามลงน้ำหลังจากผ่าอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์) ดังนั้นถ้าจะรอประกาศผล การแก้ไขที่ปลอดภัยคือการใช้โอเคเลนส์ เนื่องจากหลังทำไม่เกิดแผล สามารถว่ายน้ำ วิ่ง และออกกำลังต่างๆได้ตามปกติ อนึ่ง โอเคเลนส์ทำให้เห็นชัดขึ้น หลังจากการใส่เพียงคืนเดียว แต่การใส่หลายคืนก็จะทำให้การมองเห็นชัดเจนยิ่งขึ้นจนใกล้เคียงคนที่มีสายตาปกติ
๔ มีงบประมาณเท่าไร ?????
อันนี้ก็เป็นอีกคำถามหนึ่งที่สำคัญ โดยเฉพาะคนที่มีงบประมาณจำกัด เนื่องจากการแก้ไขแต่ละอย่าง มีค่าใช้จ่ายแตกต่างกัน
- เลสิก มักมีค่าใช้จ่ายแพงสุด ประมาณ 38,00-120,000 บาท/สองตา
- PRK มักจะราคาถูกกว่าเลสิกเล็กน้อย ประมาณ 30,000-80,000-/สองตา
- โอเคเลนส์ เริ่มต้นที่ 25,000-34,000 บาท/สองตา และเพิ่มขึ้นถ้าค่าสายตาสั้นหรือเอียงมากขึ้น
๕ การแก้ไขแต่ละวิธี มีข้อจำกัดด้านอายุหรือไม่ ?????
-วิธีผ่าตัด เลสิก / PRK เนื่องจากเด็กเตรียมทหารทั้งหมด ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปีบริบูรณ์ แต่ไม่เกิน 18 ปีบริบูรณ์ แต่การทำเลสิก / PRK เป็นการผ่าตัดตา ซึ่งอายุของผู้เข้ารับการผ่าตัดควรไม่ต่ำกว่า 18 ปี แต่การผ่าตัดเพื่อไปสอบถือเป็นกรณีจำเป็นซึ่ง แพทย์มักพิจารณาผ่าให้เมื่อผู้ป่วยร้องขอ
***เหตุผลหลักที่เลสิกไม่เหมาะกับคนอายุน้อย เนื่องจาก
- เด็กที่มีปัญหาสายตาสั้น ค่าสายตามักยังเพิ่มขึ้นอยู่ทุกปี ดังนั้นการผ่าตัดตอนที่สายตายังไม่หยุด หลังผ่าตัดสายตาก็มักจะสั้นเพิ่มขึ้นอีก ทำให้ไม่ได้ประโยชน์เต็มที่ในการผ่าตัด
- เด็กมีความแข็งแรงของกระจกตาน้อยกว่าผู้ใหญ่ ดังนั้นการผ่าตัดที่ทำให้เด็กกระจกตาบางลง ก็มีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนต่างๆมากกว่าผู้ใหญ่ด้วย
-วิธีโอเคเลนส์ ไม่มีข้อจำกัดด้านอายุ เนื่องจากไม่ใช่การผ่าตัด โดยในปัจจุบัน โอเคเลนส์ถูกใช้อย่างแพร่หลายในเด็กอายุตั้งแต่ 7-8 ปีขึ้นไป เนื่องจากมีเอกสารยืนยันทางวิชาการว่าการใช้โอเคเลนส์ สามารถช่วยควบคุมสายตาสั้นได้(การควบคุมสายตาสั้นคือการชลอหรือหยุดไม่ให้สายตาสั้นเพิ่มขึ้น)
๖ การแก้ไขแต่ละวิธี มีข้อจำกัด หรือข้อห้ามอะไรบ้าง ?????
### เลสิก
-ห้ามลงน้ำ หรือสิ่งสกปรกเข้าตา ใน 2 สัปดาห์แรก หลังผ่าตัด เนื่องจากเสี่ยงต่อกระจกตาติดเชื้อ
-แผลหายเร็ว แต่จะมีแผลเป็น(Flap) ตลอดชีวิต ดังนั้น หลังผ่าตัดแล้ว ห้ามขยี้ตาแรงๆ และต้องหลีกเลี่ยงทุกกิจกรรมที่อาจมีการกระทบกระเทือนรุนแรงที่ดวงตา เพราะถ้าเกิดขึ้นก็อาจทำให้แผลผ่าตัด (Flap) เปิดได้
-ไม่เหมาะกับผู้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี
-ไม่เหมาะกับผู้ที่สายตายังไม่นิ่ง เพราะถ้าสายตายังสั้นเพิ่มขึ้นอยู่ หลังจากทำ สายตาก็จะกลับมาสั้นอีกได้
### PRK
-ห้ามลงน้ำ หรือสิ่งสกปรกเข้าตา ใน 2 สัปดาห์แรก หลังผ่าตัด เนื่องจากเสี่ยงต่อกระจกตาติดเชื้อ
-แผลหายช้ากว่าเลสิก แต่ถ้าหายแล้วไม่มีแผลเป็น ดังนั้น PRK จึงเหมาะกับอาชีพตำรวจ / ทหาร มากกว่าเลสิก เนื่องจากทั้งการเรียนและการปฏิบัติภารกิจหลังจากเรียนจบ มีโอกาสที่จะได้รับการกระทบกระเทือนดวงตาได้
-คนไข้หลายๆคน ใช้เวลาหลายเดือนกว่าการมองเห็นจะชัดเจนเต็มที่
-ไม่เหมาะกับผู้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี
-ไม่เหมาะกับผู้ที่สายตายังไม่นิ่ง เพราะถ้าสายตายังสั้นเพิ่มขึ้นอยู่ หลังจากทำ สายตาก็จะกลับมาสั้นอีกได้
### โอเคเลนส์
-สายตาเอียงเกิน -1.50 อาจใช้เวลานานกว่าจะเห็นชัด หรือบางกรณีต้องใช้เลนส์สั่งตัดซึ่งต้องสั่งตัด ใช้เวลานาน
-การแก้ไข เป็นการแก้แบบไม่ถาวร ดังนั้นถ้าหยุดใส่เลนส์ สายตาก็จะกลับมาสั้นดั่งเดิม
๗ หมอบอกว่ากระจกตาบางเกิน ทำเลสิก / PRK ไม่ได้ ทำอย่างไรดี ?????
-สามารถแก้ไขด้วยโอเคเลนส์ได้ เนื่องจากการใส่โอเคเลนส์ไม่ทำให้กระจกตาบางลง
๘ ไม่เคยไปตรวจสายตา แต่มองเห็นชัดอยู่แล้ว ไปตรวจวันจริงเลยได้ไหม ?????
-ไม่ควรทำ เนื่องจากคนที่รู้สึกว่าตัวเองมองชัด อาจมีสายตาสั้นหรือเอียงอยู่ก็ได้ หลายๆคนสอบตกสายตาอย่างน่าเสียดาย เนื่องจากไม่เคยทดสอบสายตามาก่อน
หมายเหตุ การสอบตกสายตา สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ แต่มักไม่ผ่านแม้ครั้งที่สองจะอ่านตัวเลขได้หมด
ดังนั้น ตามความเห็นส่วนตัวของหมอเบิร์ด ถ้าลูกชายของหมอเบิร์ดจะสอบเข้าเตรียมทหาร จะให้คำแนะนำอย่างนี้ครับ
-ถ้าอยากได้เหล่า ทบ. ที่สุด และมีสายตาสั้นเกิน -1.75 ไดออปเตอร์ และมั่นใจว่าสอบผ่าน ให้ทำ PRK แต่เนิ่นๆ (หลายเดือนก่อนสอบแต่อย่าเกิน 1 ปี เพราะสายตาอาจสั้นเพิ่มระหว่างดูหนังสือสอบหนักๆได้) แต่ถ้าไม่มั่นใจว่าจะสอบผ่าน ให้รอประกาศผลสอบข้อเขียน เมื่อผ่านให้รีบไปทำเลสิก (ทบ. ตรวจกระจกตาเข้ม และไม่ให้ใช้โอเคเลนส์)
-ถ้าอยากได้เหล่า ทบ. ที่สุด แต่มีสายตาสั้นไม่เกิน -1.75 ไดออปเตอร์ และเอียงไม่มาก แนะนำให้ใช้โอเคเลนส์ จะมีโอกาสสอบได้ทุกเหล่า และไม่ต้องผ่าตัด(ถ้าสายตาเอียงเกิน 1.00 ไดออปเตอร์ ควรแก้ไขตั้งแต่เนิ่นๆ)
-ถ้ามีความมั่นใจในการสอบผ่านข้อเขียนต่ำ ทำโจทย์น้อย หรือทดลองสอบเผื่อติด อย่าเพิ่งแก้ไขอะไรทั้งสิ้น ให้รอหลังประกาศผลข้อเขียน เพราะโอกาศฟลุ๊คติด ยากมากๆๆๆๆ เพราะแต่ละเหล่ามีเด็กสอบสองสามหมื่นคน แต่รับอย่างมากเหล่าละแค่ร้อยกว่าสองร้อยคน (การแข่งขัน สอบติดคนเดียวจากผู้สอบเป็นร้อยคน โอกาสเข้าไปกามั่วๆแล้วติด ยากมากครับ)
-ถ้าอยากได้เหล่า ทอ. อย่าผ่าตัด เพราะมีผลต่อการเป็นนักบิน
-ถ้าสายตาเยอะเกิน -4.00 ไดออปเตอร์ และประวัติสายตาหยุดสั้นแล้วอย่างน้อย 1 ปี ถ้าเรียนเก่ง สอบติดแน่ๆ ให้ทำ PRK ตั้งแต่เนิ่นๆเลย หรือถ้าสอบผ่านข้อเขียนแล้ว อาจทำเลสิกถ้ามีเวลาพอ
-ถ้าสอบผ่านข้อเขียนแล้ว สายตาสั้นไม่เกิน -1.50 และมีเอียงไม่มาก ทำโอเคเลนส์ ไปสอบได้ทุกเหล่าโดยไม่ต้องผ่าตัด
มีคำถามเพิ่มเติม แอดไลน์มาคุยกันได้นะครับ
ขอให้ทุกท่านโชคดีในการสอบครับ
หมอเบิร์ด
สนใจแก้ไขสายตาด้วยโอเคเลนส์ เลนส์กดตา สอบถามเพิ่มเติม ได้ตามช่องทางด้านล่างครับ
โทรศัพท์ : 02-734-0911 081-7344-552
อีเมล์ : thaidoctorvision@gmail.com
เวบไซต์ : www.doctorvision.net
ID LINE : @doctorvision
เวลาทำการ 11.00-20.00 น. เปิดทุกวัน(หยุดวันพุธ)
ต้องการตรวจกับด๊อกเตอร์ กรุณาโทรนัดหมายล่วงหน้า