FAQ อยากใส่คอนแทคเลนส์
เพื่อนใส่คอนแทคเลนส์อยู่ จะลองขอยืมเพื่อนใส่ได้หรือไม่……???
ไม่ควรครับ เนื่องจากคอนแทคเลนส์เป็นสิ่งของส่วนตัวที่สัมผัสกับสารคัดหลั่ง(น้ำตา ขี้ตา) โดยตรง การใช้คอนแทคเลนส์ร่วมกับเพื่อนอาจทำให้เกิดโรคติดต่อตามมาได้ครับ และขนาดของคอนแทคเลนส์ของเพื่อนก็อาจไม่พอดีกับขนาดของดวงตาของเราด้วย
วัตถุประสงค์ของการใส่คอนแทคเลนส์ในปัจจุบันมีอะไรบ้าง…….???
จุดประสงค์ของการใช้คอนแทคเลนส์ในปัจจุบัน อาจแบ่งใหญ่ๆได้ดังนี้
◦ เพื่อแก้ไขปัญหาสายตา ทั้งปัญหาสายตาสั้น ยาว เอียง หรือปัญหาสายตายาวสูงอายุ
◦ เพื่อปรับความโค้งกระจกตา โดยใส่คอนแทคเลนส์ตอนนอน เมื่อตื่นขึ้นมาสามารถถอดเลนส์และมองเห็นได้ชัดเจนโดยไม่ต้องใส่แว่น เหมาะสำหรับอาชีพหรือกิจกรรมที่ไม่สะดวกที่จะใส่แว่นตาหรือคอนแทคเลนส์ และไม่ต้องการทำเลสิก เช่น นักเรียนเตรียมทหาร นักกีฬารักบี้ นักผจญเพลิง นักว่ายน้ำ หรือสำหรับคนที่มีปัญหาตาแห้งเมื่อใส่คอนแทคเลนส์ นักบิน แอร์โฮสเตส พนักงานออฟฟิศฯลฯ
◦ เพื่อความสวยงาม เช่น คอนแทคเลนส์ตาโต เปลี่ยนสีตา หรือคอนแทคเลนส์เพื่อการแสดงละคร หรือผู้ที่มีรอยแผลเป็นที่กระจกตาหรือม่านตา ฯลฯ
◦ เพื่อรักษาโรคหรือความผิดปกติ เช่นแก้ไขโรคกระจกตาโป่งพอง กระจกตาบิดเบี้ยว หรือคอนแทคเลนส์ปิดกระจกตาเพื่อป้องกันการบาดเจ็บหลังจากการทำ PRK เปลี่ยนถ่ายกระจกตา หรือแผลที่กระจกตา ฯลฯ
อย่างไรก็ดี สำหรับบางคนอาจมีวัตถุประสงค์มากกว่าหนึ่งก็ได้เช่น อยากแก้ไขปัญหาสายตา แต่ไม่อยากใส่แว่นตาเป็นต้น
ใครบ้างควรใช้คอนแทคเลนส์……???
มีคนหลายกลุ่มที่เหมาะสมกับการใช้คอนแทคเลนส์ ตัวอย่างเช่น
- อาชีพที่ต้องการความสวยงาม เช่น ดารา นักร้อง นายแบบ นางแบบ คงจะดูไม่ดีนักถ้าจะต้องใส่แว่นตาหนาเตอะเพื่อเดินแบบหรือร้องเพลง(ยกเว้นแฟชั่นนะ)
- อาชีพที่ต้องการบุคลิก ความคล่องตัว เช่น นักบิน แอร์โฮสเตส
- คนที่มีกิจกรรมที่แว่นตาไม่ตอบโจทย์ เช่น เล่นกีฬาเทนนิส บาสเกตบอล เป็นต้น
- ผู้ที่มีปัญหาสายตาบางอย่างที่เหมาะกับการใส่คอนแทคเลนส์ เช่น ปัญหาสายตาสองข้างต่างกันมาก หรือผู้ที่มีค่าสายตาสูง
- ผู้ที่มีปัญหาสายตา และไม่อยากใส่แว่นตา
ใครบ้างที่ไม่เหมาะหรือต้องระวังเป็นพิเศษถ้าต้องการใช้คอนแทคเลนส์……???
มีคนบางกลุ่มที่ไม่เหมาะหรือ อาจใส่ได้แต่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษหรือภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญครับ ตัวอย่างเช่น
- ผู้ที่มีปัญหาการดูแลรักษาความสะอาด เช่นเด็กที่ไม่มีความรับผิดชอบดีพอ เนื่องจากสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการใช้คอนแทคเลนส์คือความสะอาด ถ้าการดูแลรักษาความสะอาดไม่ดีพออาจทำให้เกิดปัญหาดวงตาติดเชื้อรุนแรงตามมาได้
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางอย่างที่ทำให้ตาแห้ง เนื่องจากการใช้คอนแทคเลนส์มักจะทำให้ปัญหาตาแห้งรุนแรงมากขึ้น เช่นโรคระบบออโตอิมมูนต่างๆ โรครูมาตอยด์ ไธรอยด์ หรือการรับประทานฮอร์โมนฯลฯ
- โรคประจำตัวบางอย่างที่อาจทำให้ภูมิต้านทานต่ำ หรือเกิดการติดเชื้อง่าย ควรได้รับคำแนะนำจากจักษุแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด เช่นเบาหวาน โรคเรื้อรังระบบทางเดินหายใจส่วนต้น
- ผู้ที่ใช้ยาที่อาจมีผลต่อการใช้คอนแทคเลนส์ เช่นยาที่ทำให้ตาแห้ง กลุ่ม Antihistamine ยาขับปัสสาวะ Beta-Blocker เป็นต้น
- ผู้ที่มีโรคตาอยู่ หรือเคยได้รับอุบัติเหตุหรือผ่าตัดตา
- ผู้ที่ต้องอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่สกปรกหรือมีฝุ่นควันมาก เช่น นักกีฬารักบี้ แม่ครัวที่ต้องผัดกับข้าว วิศวกรที่ต้องอยู่กับไซด์งานก่อสร้าง ถ้าจะใส่ควรมีการป้องกันสิ่งสกปรกเข้าตา
- เด็กที่ต้องการใส่คอนแทคเลนส์ ควรได้รับความเห็นจากผู้ปกครอง
มีปัญหาสายตา ถ้าใช้คอนแทคเลนส์แล้วก็ไม่ต้องใช้แว่นตาเลยใช่หรือไม่…..???
ไม่ใช่ครับ เพราะว่าเราไม่ควรใส่คอนแทคเลนส์ทั้งวันตั้งแต่ตื่นนอนจนถึงเข้านอน เนื่องจากกระจกตา(หรือที่เรียกกันว่าตาดำ) ของเราต้องการอ๊อกซิเจนจากอากาศ การใส่ทั้งวันจะทำให้กระจกตาขาดอ๊อกซิเจนและมีปัญหาในระยะยาวได้ (ในปัจจุบันมีคอนแทคเลนส์บางรุ่นทำด้วยวัสดุที่ให้อ๊อกซิเจนผ่านสูงแล้ว การใส่คอนแทคเลนส์ดังกล่าวก็ทำให้ปัญหานี้น้อยลงได้) อีกอย่างหนึ่งคือกระจกตาต้องการการทำความสะอาด โดยถ้าเปรียบกระจกตาดั่งกระจกรถ หนังตาก็เปรียบเสมือนที่ปัดน้ำฝน ซึ่งทำหน้าที่ปัดทำความสะอาดดวงตาทุกครั้งที่กระพริบตา ทำให้สิ่งสกปรกเช่น เศษเซลล์ที่ตายแล้ว เศษฝุ่น น้ำตาที่มีอ๊อกซิเจนต่ำ คราบไขมันและโปรตีนจากต่อมน้ำตา หลุดออกไป ถ้าสิ่งสกปรกต่างๆสะสมที่กระจกตาอาจทำให้เกิดการระคายเคือง อักเสบได้
ดังนั้น คำแนะนำคือเราควรให้ดวงตาได้พักบ้าง อย่างน้อยเมื่อกลับถึงบ้านควรถอดคอนแทคเลนส์ทันทีและใส่แว่นตา ให้กระจกตาได้รับอ๊อกซิเจนและได้รับการทำความสะอาดจากการกระพริบตา จะเห็นว่าเพื่อสุขภาพตาที่ดีของเรา แนะนำให้ใช้ทั้งคอนแทคเลนส์และแว่นตาควบคู่กันครับ
ข้อเปรียบเทียบระหว่างคอนแทคเลนส์และแว่นตา แต่ละอย่างมีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง…..???
ถ้าผู้ใส่เหมาะที่จะใช้คอนแทคเลนส์หรือแว่นตาก็ได้โดย(ดังคำถามข้างต้น) ก็มีข้อเปรียบเทียบเพิ่มเติมดังนี้ครับ
- การดูแลรักษา แว่นตาต้องการการดูแลต่ำ แต่คอนแทคเลนส์ต้องการดูแลรักษาความสะอาดทุกวัน ต้องถอดเลนส์ก่อนนอน ทำความสะอาด และแช่เลนส์ในน้ำยาฆ่าเชื้อโรค
- ด้านความสวยงามและบุคลิก คอนแทคเลนส์ดีกว่าเนื่องจากทำให้ไม่ต้องใส่แว่นตา
- รายจ่าย แว่นตาเสียเงินมากครั้งเดียว ใช้ได้นาน แต่คอนแทคเลนส์ เสียเงินครั้งละน้อยกว่า แต่ต้องเสียอยู่เสมอเนื่องจากต้องเปลี่ยนคอนแทคเลนส์เมื่อถึงอายุการใช้งานที่แนะนำ
มีปัญหาสายตา แต่ไม่อยากใช้แว่นตา นอกจากคอนแทคเลนส์แล้วมีวิธีการอื่นอีกหรือไม่……???
คอนแทคเลนส์นับเป็นวิธีการแก้ไขสายตาอย่างหนึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการเป็นอิสระจากแว่นตา อย่างไรก็ดียังมีทางเลือกอีกหลายอย่างที่สามารถตอบสนองความต้องการดังกล่าวได้ โดยแต่ละวิธีมีข้อจำกัดและความเหมาะสมแตกต่างกันไป เช่น การปรับความโค้งกระจกตาด้วยคอนแทคเลนส์ การทำเลสิก PRK การใส่เลนส์หรือเปลี่ยนเลนส์ตา การทำ RK CK ฯลฯ
สำหรับทางเลือกในการแก้ไขสายตา สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ตามปัญหาสายตาที่ท่านมีครับ
รวมคำถามสายตาสั้น รวมคำถามสายตายาว รวมคำถามสายตาเอียง รวมคำถามสายตายาวสูงอายุ
มีคำแนะนำอย่างไรกับการใส่คอนแทคเลนส์ครั้งแรก…….???
อย่างน้อยที่สุดการใส่ครั้งแรกควรได้รับคำแนะนำจาก นักทัศนมาตรหรือจักษุแพทย์เพื่อให้ได้คอนแทคเลนส์ที่เหมาะสมกับดวงตา ไม่คับหรือไม่หลวมเกินไป อีกทั้งเหมาะสมกับการใช้งาน ไม่ควรซื้อคอนแทคเลนส์มาใส่เอง หรือขอยืมเพื่อนใส่เพราะอาจติดโรคติดต่อได้ครับ (ในทุกๆวัน มีผู้ป่วยที่ไปพบจักษุแพทย์เนื่องจากการใช้คอนแทคเลนส์ที่ไม่ถูกต้องจำนวนมาก) คอนแทคเลนส์ไม่ใช่สิ่งอันตรายถ้ามีความรู้ความเข้าใจในการใช้ แต่อาจทำให้สูญเสียดวงตาได้ถ้ามีการใช้อย่างไม่ถูกต้องครับ
คอนแทคเลนส์คับหรือหลวม เป็นอย่างไร มีผลเสียอย่างไร…….???
การใส่คอนแทคเลนส์ที่ไม่พอดีกับลูกตา คับไปหรือหลวมไปก็ส่งผลเสียต่อดวงตาได้ทั้งคู่ โดยคอนแทคเลนส์ที่คับเกินไปจะบีบรัดดวงตา เมื่อกระพริบตาคอนแทคเลนส์จะมีการเลื่อนตัวน้อยหรือไม่เลื่อนเลย เมื่อเริ่มใส่อาจรู้สึกสบายตาแต่เมื่อใส่ไปนานๆอาจทำให้ตาแดงหรือเจ็บตาได้เพราะอ๊อกซิเจนเข้าสู่ดวงตาต่ำ และไม่มีการระบายสิ่งสกปรกออกจากตาดำจากการกระพริบตา ในขณะที่คอนแทคเลนส์ที่หลวมเกินไปจะเลื่อนตัวมากเมื่อกระพริบตาทำให้รู้สึกเดี๋ยวชัดเดี๋ยวมัว ถ้าหลวมมากอาจทำให้เคืองตาด้วย
ใส่คอนแทคเลนส์ครั้งแรกจะมีความรู้สึกอย่างไร……???
ทุกคนเมื่อเริ่มใส่คอนแทคเลนส์ชนิดนิ่มเป็นครั้งแรกจะรู้สึกเคืองตาเล็กน้อยพอทนได้และรู้สึกว่าเหมือนมีอะไรอยู่ในตา(ก็มีอยู่จริงๆหนิ) อาจมีน้ำตาไหลมากกว่าปกติร่วมกับตาแดงด้วยแต่จะดีขึ้นภายใน 15 นาทีแรก การเคืองจะน้อยลงและมักจะไม่รู้สึกเคืองตาหลังจากใส่ไปแล้วประมาณ 1-2 สัปดาห์ อย่างไรก็ดี ถ้าใส่แล้วรู้สึกเจ็บหรือเคืองตาอย่างมากอย่าทนใส่ การเจ็บหรือเคืองมากอาจเกิดได้จากสาเหตุมากมายเช่น คอนแทคเลนส์ไม่พอดีกับลูกตา คอนแทคเลนส์ชำรุด กลับข้าง มีสิ่งสกปรกใต้คอนแทคเลนส์ หรือดวงตาบาดเจ็บจากการใส่ที่ไม่ถูกต้อง ปัญหาเหล่านี้นักทัศนมาตรหรือจักษุแพทย์สามารถแก้ไขและแนะนำท่านได้ ดังนั้นการใส่คอนแทคเลนส์ครั้งแรกควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญนะครับ
ความรู้สึกอื่นๆ บางคนรู้สึกได้ถึงความเป็นอิสระจากแว่นสายตา โดยเฉพาะผู้ที่มีค่าสายตาสูงมาก ต้องใส่แว่นตาตลอดเวลา
ยังสับสนอยู่ว่าตนเองควรจะใส่คอนแทคเลนส์หรือไม่ ควรทำอย่างไร…..???
ก่อนอื่นให้ดูว่าเรามีความต้องการในการใส่คอนแทคเลนส์หรือไม่ ถ้าตอบตนเองว่าอยากใส่ก็ไปดูว่าเราอยู่ในกลุ่มที่ไม่เหมาะหรือต้องระวังเป็นพิเศษตามข้างบนหรือไม่ ถ้าไม่อยู่ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร ถ้าอยู่ก็ควรได้รับการตรวจหรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนการใส่คอนแทคเลนส์ครับ
ใส่แว่นตาอยู่แล้ว ถ้าอยากใส่คอนแทคเลนส์สามารถใช้ค่าสายตาของแว่นตาเพื่อซื้อคอนแทคเลนส์ได้เลยหรือไม่…..???
ค่าสายตาของแว่นตากับคอนแทคเลนส์อาจตรงกันหรือไม่ตรงก็ได้ โดยถ้าค่าสายตาของแว่นตาน้อยกว่า 4.00 ไดออปเตอร์(ทั่วไปเรียก สี่ร้อย) ไม่ว่าจะสั้นหรือยาว ค่าสายตาของแว่นตาและคอนแทคเลนส์มักเป็นค่าเดียวกัน แต่ถ้าสายตาเกินกว่านั้นจะไม่ใช่ค่าเดียวกัน ท่านสามารถปรึกษาร้านแว่นเพื่อทราบถึงค่าสายตาของคอนแทคเลนส์ที่ถูกต้องได้
ความรู้ทั่วไปสำหรับคอนแทคเลนส์
คอนแทคเลนส์คืออะไร…..???
คอนแทคเลนส์(Contact Lens) มาจากภาษาอังกฤษ ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยได้ว่า “เลนส์สัมผัส” โดยคอนแทคเลนส์คือเลนส์ชิ้นเล็กๆสำหรับใส่ติดกับดวงตา(แปะอยู่ที่กระจกตาหรือตาดำ) ต่างจากแว่นตาคือเลนส์แว่นตาจะใหญ่กว่าคอนแทคเลนส์และอยู่ห่างจากลูกตาออกมา วัตถุประสงค์ของการใส่คอนแทคเลนส์อาจมีหลากหลายเช่น การแก้ไขปัญหาสายตา(สั้น ยาว เอียง สูงอายุ) การรักษาโรค การใส่เพื่อความสวยงาม ฯลฯ คอนแทคเลนส์จึงนับเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่มีปัญหาสายตาแต่ไม่อยากใส่แว่นตา
คอนแทคเลนส์มีกี่ประเภท อะไรบ้าง…..???
การแบ่งประเภทของคอนแทคเลนส์ สามารถแบ่งได้หลากหลาย คล้ายกับการแบ่งจำแนกประเภทรถ ซึ่งเราอาจจำแนกจากชนิดของรถ(เช่น รถเก๋ง รถปิกอัพ รถสิบล้อ) จำแนกตามลักษณะการใช้งาน(รถส่วนบุคคล รถโดยสารประจำทาง รถบรรทุก) หรือแบ่งตามจำนวนล้อ(รถสองล้อ รถสามล้อ รถสี่ล้อ รถหกล้อ รถสิบล้อ) ฯลฯ การแบ่งชนิดของคอนแทคเลนส์ เราสามารถแบ่งประเภทของคอนแทคเลนส์ได้หลากหลายโดยมีรายละเอียดดังนี้
- แบ่งตามวัสดุที่ใช้ทำคอนแทคเลนส์ เช่น
◦ คอนแทคเลนส์ชนิดแข็งทำด้วย PMMA เป็นคอนแทคเลนส์รุ่นแรกๆของโลก มีข้อเสียคือไม่ยอมให้อ๊อกซิเจนผ่าน ปัจจุบันเลิกใช้ไปแล้วเนื่องจากสามารถคิดค้นวัสดุทำคอนแทคเลนส์ชนิดแข็งที่ยอมให้อ๊อกซิเจนผ่านได้ดี
◦ คอนแทคเลนส์ชนิดแข็งที่ยอมให้อ๊อกซิเจนผ่านได้ดี (Rigid Gas Permeable Contact Lens, RGP) คอนแทคเลนส์ชนิดนี้มีข้อเสียคือผู้ใส่รู้สึกระคายเคืองตามากกว่าการใส่คอนแทคเลนส์ชนิดนิ่มในช่วงแรก แต่มีคุณสมบัติที่ดีกว่าคอนแทคเลนส์ชนิดนิ่มหลายอย่างคือ ยอมให้อ๊อกซิเจนผ่านได้ดี ความคมชัดในการมองเห็นดีกว่า ทำให้ตาแห้งน้อยกว่า สามารถแก้ไขปัญหากระจกตาบิดเบี้ยวได้ดีกว่า มีอายุการใช้งานที่นานกว่าและประหยัดกว่าในระยะยาว
◦ คอนแทคเลนส์ชนิดนิ่มไฮโดรเจล เป็นวัสดุที่ใช้ทำคอนแทคเลนส์ชนิดนิ่มส่วนใหญ่ในปัจจุบัน
◦ คอนแทคเลนส์ชนิดนิ่มวัสดุซิลิโคนไฮโดรเจล เป็นวัสดุใหม่ล่าสุดสำหรับคอนแทคเลนส์ชนิดนิ่ม มีคุณสมบัติพิเศษคือยอมให้อ๊อกซิเจนผ่านสูงกว่า 97% ทำให้ดีต่อสุขภาพตามากกว่า คาดว่าในอนาคตคอนแทคเลนส์ชนิดนิ่มจะทำด้วยวัสดุชนิดนี้เป็นหลัก
- แบ่งตามลักษณะการใช้งาน
◦ แบบใส่เฉพาะตอนตื่น และถอดก่อนนอน ผู้ใส่จะต้องถอดเลนส์ก่อนนอนเสมอ
◦ แบบใส่ต่อเนื่องนาน 6 วันโดยไม่ต้องถอด คอนแทคเลนส์มักต้องทำด้วยวัสดุซิลิโคนไฮโดรเจลเพื่อให้อ๊อกซิเจนผ่านเข้าสู่ดวงตาได้ดี อย่างไรก็ดี การใส่เลนส์นอนสามารถทำได้กับเลนส์บางรุ่นเท่านั้นและทำให้มีความเสี่ยงต่อดวงตาติดเชื้อสูงขึ้นกว่าการถอดเลนส์ก่อนนอนอย่างมาก
◦ แบบใส่ต่อเนื่องนาน 30 วันโดยไม่ต้องถอด คอนแทคเลนส์มักต้องทำด้วยวัสดุซิลิโคนไฮโดรเจลเพื่อให้อ๊อกซิเจนผ่านเข้าสู่ดวงตาได้ดี อย่างไรก็ดี การใส่เลนส์นอนสามารถทำได้กับเลนส์บางรุ่นเท่านั้นและทำให้มีความเสี่ยงต่อดวงตาติดเชื้อสูงขึ้นกว่าการถอดเลนส์ก่อนนอนอย่างมาก การใส่อย่างนี้ผู้ใส่ต้องมีการสังเกตดวงตาของตนเองอย่างใกล้ชิดและได้รับการตรวจตาโดยผู้เชี่ยวชาญอย่างสม่ำเสมอ
- แบ่งตามอายุการใช้งาน
◦ อายุการใช้งาน 1 วัน ประเภทใช้ครั้งเดียวทิ้ง ทำให้ผู้ใช้มีความสะดวกสบายเนื่องจากไม่ต้องทำความสะอาดเลนส์ และลดความเสี่ยงต่อตาติดเชื้อเนื่องจากได้ใส่เลนส์ใหม่ทุกวัน แต่เลนส์ชนิดนี้มีราคาแพงกว่าเลนส์ชนิดอื่นเมื่อเปรียบเทียบราคากันวันต่อวัน
◦ อายุการใช้งาน 2 สัปดาห์ถึง1 เดือน เป็นเลนส์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในปัจจุบันเนื่องจากราคาไม่แพง
◦ อายุการใช้งาน 3 เดือน ถึง 1 ปี เป็นคอนแทคเลนส์ชนิดนิ่มแบบขวด ปัจจุบันไม่ได้รับความนิยมและมีการผลิตน้อยลงเรื่อยๆ แต่จะมีค่าสายตาช่วงกว้างกว่าเลนส์แบบรายวันหรือรายเดือน
◦ อายุการใช้งาน 1 ปีขึ้นไป มักเป็นเลนส์ชนิดแข็ง มีอายุการใช้งานนาน 2-3 ปีหรือมากกว่านั้นทั้งนี้ขึ้นกับการดูแลและการเปลี่ยนแปลงสายตาของผู้ใส่ สามารถสั่งให้ผลิตตามค่าสายตาและความโค้งกระจกตาเฉพาะบุคคลได้
- แบ่งตามวัตถุประสงค์การใช้งาน
◦ เพื่อแก้ไขปัญหาสายตา ทั้งปัญหาสายตาสั้น ยาว เอียง หรือปัญหาสายตายาวสูงอายุ
◦ เพื่อปรับความโค้งกระจกตา โดยใส่คอนแทคเลนส์ตอนนอน เมื่อตื่นขึ้นมาสามารถถอดเลนส์และมองเห็นได้ชัดเจนโดยไม่ต้องใส่แว่น เหมาะสำหรับอาชีพหรือกิจกรรมที่ไม่สะดวกที่จะใส่แว่นตาหรือคอนแทคเลนส์ และไม่ต้องการทำเลสิก เช่น นักเรียนเตรียมทหาร นักกีฬารักบี้ นักผจญเพลิง นักว่ายน้ำ หรือสำหรับคนที่มีปัญหาตาแห้งเมื่อใส่คอนแทคเลนส์ นักบิน แอร์โฮสเตส พนักงานออฟฟิศฯลฯ
◦ เพื่อความสวยงาม เช่น คอนแทคเลนส์ตาโต เปลี่ยนสีตา หรือคอนแทคเลนส์เพื่อการแสดงละคร หรือผู้ที่มีรอยแผลเป็นที่กระจกตาหรือม่านตา ฯลฯ
◦ เพื่อรักษาโรคหรือความผิดปกติ เช่นแก้ไขโรคกระจกตาโป่งพอง กระจกตาบิดเบี้ยว หรือคอนแทคเลนส์ปิดกระจกตาเพื่อป้องกันการบาดเจ็บหลังจากการทำ PRK เปลี่ยนถ่ายกระจกตา หรือแผลที่กระจกตา ฯลฯ
- แบ่งตามการออกแบบเลนส์ เช่น
◦ คอนแทคเลนส์แบบ Spheric สำหรับการใช้งานปกติ
◦ คอนแทคเลนส์แบบ Aspheric ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ไขความบิดเบือนของแสงด้านข้าง เหมาะสำหรับผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์แล้วมีปัญหามองตอนกลางคืนไม่ค่อยชัด ส่วนใหญ่คนกลุ่มนี้มักมีขนาดของรูม่านตาค่อนข้างใหญ่เมื่ออยู่ในที่มึด
◦ คอนแทคเลนส์ชนิดกำลังสายตาเดียว สำหรับแก้ไขปัญหา สายตาสั้น ยาว เท่านั้น
◦ คอนแทคเลนส์แก้สายตาเอียง สำหรับแก้ไขปัญหาสายตาสั้นหรือสายตายาวที่มีสายตาเอียงร่วมด้วย ผู้ที่ต้องการใส่เลนส์สายตาเอียงควรได้รับการตรวจจากผู้เชี่ยวชาญเนื่องจากคอนแทคเลนส์มักจะหมุนเมื่อกระพริบตา ทำให้มองเห็นเดี๋ยวมัวเดี๋ยวชัด
◦ คอนแทคเลนส์ชนิดสองกำลังสายตาหรือหลายกำลังสายตาในชิ้นเดียว เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาสายตาสูงอายุที่อายุเกิน 40 ปีและไม่ต้องการใส่แว่นสายตา คอนแทคเลนส์ดังกล่าวสามารถทำให้เห็นได้ชัดเจนทั้งที่ระยะใกล้และระยะไกลโดยไม่ต้องใช้แว่นตา
จะเห็นว่าจริงๆแล้ว คอนแทคเลนส์มีมากมายหลายชนิดให้เราได้ใช้ ดังนั้นการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจะทำให้เราได้คอนแทคเลนส์ที่เหมาะสมกับสภาพดวงตาและลักษณะการใช้งานของเราโดยแท้จริงครับ
จะรู้ได้อย่างไรว่าเราเหมาะกับคอนแทคเลนส์ชนิดไหน มีวิธีการเลือกคอนแทคเลนส์อย่างไร…..???
คอนแทคเลนส์มีมากมายหลายหลากชนิด ผู้ที่สามารถบอกได้ดีที่สุดว่าคอนแทคเลนส์ชนิดไหนเหมาะกับเราคือนักทัศนมาตรหรือจักษุแพทย์ อย่างน้อยที่สุดครั้งแรกที่จะใส่คอนแทคเลนส์ควรได้รับการตรวจดวงตาและการแนะนำคอนแทคเลนส์จากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งนอกจากจะได้คอนแทคเลนส์ที่เหมาะกับดวงตาแล้ว ยังจะได้รับความรู้และข้อควรปฏิบัติที่ถูกต้องด้วยครับ
ทำไมคอนแทคเลนส์แต่ละชิ้นถึงมีอายุการใช้งานที่ไม่เท่ากัน…….???
คอนแทคเลนส์แต่ละคู่มีอายุการใช้งานแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยเช่น
- วัสดุที่ใช้ทำคอนแทคเลนส์ ยิ่งวัสดุที่มีความแข็งแรงมาก ยิ่งทำให้คอนแทคเลนส์มีอายุการใช้งานนาน เช่นคอนแทคเลนส์ชนิดแข็งจะมีอายุการใช้งานนานกว่าคอนแทคเลนส์ชนิดนิ่ม
- ความหนาของคอนแทคเลนส์ สำหรับวัสดุชนิดเดียวกันยิ่งคอนแทคเลนส์หนายิ่งมีอายุการใช้งานนานกว่า คอนแทคเลนส์ชนิดใช้วันเดียวทิ้งมักถูกผลิตให้บางกว่ารายเดือนเพื่อความสบายในการใส่
- การสะสมของสิ่งสกปรก คราบไขมัน โปรตีน โดยคอนแทคเลนส์ที่มีการสะสมของสิ่งสกปรกน้อยกว่า จะมีอายุการใช้งานที่นานกว่า ทั้งนี้การสะสมของสิ่งสกปรกยังขึ้นกับความเป็นรูพรุนและเนื้อวัสดุที่ใช้ทำคอนแทคเลนส์อีกด้วย
จะเห็นว่าคอนแทคเลนส์ที่มีอายุการใช้งานที่ต่างกัน ถูกออกแบบมาแตกต่างกัน ดังนั้นผู้ใช้จึงควรเปลี่ยนคอนแทคเลนส์อย่างสม่ำเสมอตามอายุการใช้งานที่ระบุครับ
ทำไมคอนแทคเลนส์ต้องใช้แล้วต้องทิ้ง ทั้งๆที่ยังดูดีอยู่…..???
เนื่องจากเมื่อเราใช้คอนแทคเลนส์ไปแล้วจะมีการเสื่อมสภาพของคอนแทคเลนส์ โดยความเสื่อมเช่น คราบสกปรกสะสมอยู่ที่ล้างไม่ออก คอนแทคเลนส์ชำรุด ย้วย บิ่น หรือฉีกขาด ซึ่งการใช้ต่อไปโดยไม่เปลี่ยนอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บหรือระคายเคืองตาได้ ดังนั้นจึงควรเปลี่ยนคอนแทคเลนส์ตามอายุที่ใช้งานครับ การเสื่อมสภาพอาจไม่สามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่าครับ
คอนแทคเลนส์ที่วางขาย เป็นคอนแทคเลนส์ Free size ที่สามารถใส่ได้พอดีกับดวงตาของทุกคนหรือไม่……???
ไม่ครับ ไม่มีคอนแทคเลนส์ชิ้นไหนในโลกที่ Free size โดยขนาดของคอนแทคเลนส์จะระบุไว้สองอย่างคือ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง (เช่น “Dia 14.2 คือคอนแทคเลนส์ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 14.2 มิลลิเมตร) และความโค้งของผิวเลนส์ด้านหลัง (เช่น BC 8.4 คือรัศมีความโค้งของผิวเลนส์ด้านหลังเป็น 8.4 มิลลิเมตร) ดวงตาของแต่ละคนมีความโค้งของผิวกระจกตาไม่เท่ากัน และคอนแทคเลนส์แต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อก็มีการออกแบบค่าความโค้งของผิวเลนส์ด้านหลังไม่เท่ากันด้วย ผู้ที่สามารถบอกได้ว่าคอนแทคเลนส์รุ่นไหนเหมาะกับท่านหรือไม่คือนักทัศนมาตรหรือจักษุแพทย์ครับ การใส่คอนแทคเลนส์ที่ไม่เหมาะสมกับดวงตาอาจทำให้เกิดปัญหาระคายเคืองตาและติดเชื้อที่ดวงตาง่ายขึ้น
ตั้งคำถามเพิ่ม / ถามปัญหาของท่าน โปรดส่งคำถามมาที่ ThaiDoctorVision@gmail.com“> ThaiDoctorVision@gmail.com